114 จำนวนผู้เข้าชม |
การเลือกใช้ลวดเชื่อมที่เหมาะสมเปรียบเสมือนการเลือกอาวุธคู่กายของช่างเชื่อม เพราะมันจะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพ ความแข็งแรง และความทนทานของโครงสร้างที่สร้างขึ้น ไต้ทงแมชชีนเนอรี่ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรคอนกรีตอัดแรง ขอแนะนำให้คุณรู้จักกับลวดเชื่อมแต่ละประเภท เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับงานซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของงานเชื่อม และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน
ลวดเชื่อมคือวัสดุที่ใช้ในการเชื่อมโลหะ โดยลวดจะถูกหลอมละลายระหว่างกระบวนการเชื่อม และเติมเข้าสู่จุดเชื่อม เพื่อสร้างการยึดเกาะระหว่างวัสดุต่าง ๆ ด้วยวิธีการเชื่อมแก๊สและเชื่อมด้วยไฟฟ้า ในปัจจุบันลวดเชื่อมถูกออกแบบมาพร้อมการหุ้มฉนวนและเทคโนโลยีใหม่เพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับควัน ประกายไฟ และกลิ่น พร้อมทำให้พื้นผิวงานเรียบเนียนยิ่งขึ้น
ซึ่งลวดเชื่อมมีหลากหลายประเภท และใช้สำหรับงานเชื่อมที่แตกต่างกัน เช่น การเชื่อมเหล็ก, สเตนเลส, หรืออลูมิเนียม เป็นต้น วันนี้ ไต้ทงแมชชีนเนอรี จะพาคุณไปรู้จักกับชนิดของลวดเชื่อมที่ใช้ในงานเชื่อมพร้อมอธิบายการใช้งานอย่างละเอียดเพื่อให้เลือกใช้ชนิดที่เหมาะสมกับงานได้อย่างถูกต้อง โดยแบ่งออกเป็น 6 ชนิดดังต่อไปนี้
ประเภทของลวดเชื่อม | คุณสมบัติเด่น | เหมาะสำหรับ | ประเภทงาน |
ลวดเชื่อมเหล็กทั่วไป | แข็งแรง, ทนทาน, ราคาประหยัด | โครงสร้างเหล็ก, งานเชื่อมทั่วไป | รั้ว โครงหลังคา หรือโครงสร้างอาคารต่างๆ |
ลวดเชื่อมสแตนเลส | ไม่เป็นสนิม, ทนต่อสารเคมี | งานที่ต้องการความสวยงาม, ทนต่อการกัดกร่อน | งานตกแต่งภายใน งานผลิตเครื่องจักรที่สัมผัสกับสารเคมี หรือการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ |
ลวดเชื่อมอลูมิเนียม | เบา, แข็งแรง, ทนต่อการกัดกร่อน | งานอากาศยาน, งานตกแต่ง | งานอากาศยาน หรือชิ้นส่วนรถยนต์ |
ลวดเชื่อมพิเศษ | ทนต่ออุณหภูมิสูง, ทนต่อแรงกระแทก | โลหะผสมพิเศษ, งานที่ต้องการคุณสมบัติเฉพาะ | โลหะผสมไทเทเนียม หรือโลหะที่มีความทนทานต่ออุณหภูมิสูง |
การเลือกใช้ลวดเชื่อม MIG/MAG ที่เหมาะสมเปรียบเสมือนการเลือกสีทาบ้านให้เข้ากับสีผนัง หากเลือกสีผิด สีก็จะไม่สวยงามและไม่เข้ากัน การเลือกใช้ลวดเชื่อมที่ไม่เหมาะสมก็เช่นกัน จะส่งผลให้รอยเชื่อมไม่แข็งแรงและอาจเกิดปัญหาตามมาได้ เพื่อให้ได้รอยเชื่อมที่แข็งแรง ทนทาน และสวยงาม การเลือกใช้ลวดเชื่อม MIG/MAG ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก
ควรพิจารณาถึงชนิดของโลหะที่เชื่อม ความหนาของชิ้นงาน และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ลวดเชื่อม MIG/MAG มีให้เลือกหลากหลายชนิด เพื่อตอบสนองความต้องการในการเชื่อมที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้าง งานซ่อมบำรุง หรืองานตกแต่ง การเลือกใช้ลวดเชื่อมที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้ผลงานที่สมบูรณ์แบบ
4. ลวดเชื่อมทิก TIG (TIG Welding Rod)หรือลวดเชื่อมอาร์กอน
ลวดเชื่อมทิก TIG (TIG Welding Rod) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ลวดเชื่อมอาร์กอน เป็นลวดเชื่อมที่ใช้ในการเชื่อมที่ต้องการความละเอียดสูงและความแม่นยำสูงสุด เป็นลวดเชื่อมที่ใช้ในกระบวนการเชื่อมแบบ Tungsten Inert Gas Welding (TIG) ซึ่งเป็นกระบวนการเชื่อมแบบใช้แก๊สเฉื่อยและลวดทังสเตน เช่นอาร์กอน (Argon) หรือฮีเลียม (Helium)ปกคลุมบริเวณแนวรอยเชื่อม กระบวนการนี้ใช้ลวดเชื่อมเป็นตัวเติมเนื้อโลหะเข้าไปในรอยเชื่อม พร้อมกับการสร้างอาร์คด้วยลวดทังสเตนที่ไม่หลอมละลาย เพื่อป้องกันไม่ให้ออกซิเจนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเชื่อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสนิม และใช้ลวดทังสเตนในการสร้างประกายไฟ (อาร์ค) เพื่อหลอมโลหะ ทำให้ได้รอยเชื่อมที่สวยงามและแข็งแรง
ส่วนประกอบสำคัญในการเชื่อม TIG
การเชื่อม TIG เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความแม่นยำและความละเอียดอ่อน ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญดังต่อไปนี้
• ลวดทังสเตน (Tungsten Electrode): เปรียบเสมือนปากกาที่ใช้เขียนบนโลหะ เมื่อเราจี้ลวดทังสเตนลงบนชิ้นงานที่ต้องการเชื่อม จะเกิดประกายไฟเล็กๆ ที่เราเรียกว่า "อาร์ค" ความร้อนจากอาร์คนี้จะทำให้โลหะหลอมละลายและเชื่อมต่อกัน ลวดทังสเตนมีความแข็งแรงทนทานต่อความร้อนสูง ทำให้ไม่หลอมละลายไปกับโลหะที่เราเชื่อม
• ลวดเชื่อมเติม (Filler Rod): เป็นโลหะแท่งเล็กๆ ที่มีส่วนประกอบทางเคมีเหมือนกับชิ้นงานที่เราต้องการเชื่อม เมื่อเราต้องการเติมโลหะลงในรอยเชื่อม ก็จะค่อยๆ ป้อนลวดเชื่อมเติมเข้าไปในบริเวณที่กำลังหลอมละลาย ทำให้รอยเชื่อมมีความแข็งแรงและสมบูรณ์
• แก๊สเฉื่อย (Shielding Gas): ส่วนใหญ่จะเป็นแก๊สอาร์กอน ทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกันรอยเชื่อมจากอากาศภายนอก เพราะถ้ามีอากาศเข้าไปในรอยเชื่อม จะทำให้เกิดสนิมและทำให้รอยเชื่อมไม่แข็งแรง
การเชื่อม TIG เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความแม่นยำและความละเอียดอ่อน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือรอยเชื่อมที่สวยงาม แข็งแรง และคุณภาพสูง เหมาะสำหรับวัสดุหลากหลายประเภท โดยเฉพาะงานที่ต้องการความประณีตสูง เช่น งานเชื่อมอุปกรณ์ทางการแพทย์
งานเชื่อมอุตสาหกรรมอาหาร หรือการเชื่อมชิ้นส่วนที่ต้องมีความแข็งแรงสูง งานเชื่อมวัสดุบาง เช่น แผ่นโลหะสแตนเลสหรืออลูมิเนียม งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำ เช่น อุตสาหกรรมอากาศยาน มีขนาดให้เลือกใช้ตั้งแต่ 1.6, 2.0, 2.4 และ 3.2 มม
6. ลวดเชื่อมเซาะร่องหรือลวดเชื่อมเกาจ์ (Gouging Electrode)
ลวดเชื่อมเซาะร่อง (Gouging Electrode) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ลวดเชื่อมเกาจ์ เป็นลวดเชื่อมชนิดพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับกระบวนการ การเซาะร่องหรือการเกาจ์ (Gouging) ซึ่งใช้ในการกำจัดโลหะส่วนเกินบนชิ้นงานที่ต้องการตัด หรือ ขูดโลหะออก เช่น การเตรียมรอยเชื่อม การกำจัดส่วนที่เสียหาย การเจียรรอยเชื่อม การเตรียมร่องสำหรับงานเชื่อมใหม่ หรือการปรับแต่งรูปร่างของชิ้นงานโลหะ โดยการใช้ลวดเชื่อมร่วมกับแหล่งจ่ายไฟฟ้า (Arc) เพื่อสร้างความร้อนสูงจนทำให้โลหะหลอมละลายและถูกเป่าออกด้วยแรงลมลวดเชื่อมเซาะร่องจะช่วยให้เราทำงานเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
1. ลวดเชื่อมคาร์บอน (Carbon Electrodes):
• นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมทั่วไป
• เหมาะสำหรับการเซาะร่องบนเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กหล่อ
2. ลวดเชื่อมกราไฟต์ (Graphite Electrodes):
• ใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง
• มีการหลอมละลายที่สม่ำเสมอและให้แนวเซาะเรียบ
3. ลวดเชื่อมพิเศษ (Specialty Gouging Electrodes):
• ใช้สำหรับวัสดุเฉพาะ เช่น อลูมิเนียม หรือสแตนเลส
อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับลวดเชื่อมเซาะร่อง
• เครื่องเชื่อมไฟฟ้า (Welding Machine): ใช้สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อสร้างความร้อน สำหรับการเซาะร่อง
• แหล่งลม (Compressed Air): ใช้เป่าโลหะหลอมละลายออกจากร่อง
• เครื่องมือจับลวด (Electrode Holder): ใช้จับลวดเชื่อมเซาะร่อง
ดังนั้นลวดเชื่อมเซาะร่อง (Gouging Electrode) หรือ ลวดเชื่อมเกาจ์ เป็นลวดเชื่อมที่ออกแบบมาเพื่อการกำจัดโลหะส่วนเกิน การเตรียมแนวรอยเชื่อม หรือการซ่อมแซมชิ้นงานที่ต้องการความแม่นยำ กระบวนการนี้มีประสิทธิภาพสูงในงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะงานที่ต้องการความรวดเร็วและลดการใช้งานเครื่องจักรเพิ่มเติม งานโครงสร้างโลหะ เช่น สะพานและโครงเหล็ก งานซ่อมแซมในอุตสาหกรรม เช่น การซ่อมเรือและเครื่องจักร รวมถึงงานในโรงงานผลิตเหล็กและหล่อโลหะ
7. ลวดเชื่อมพิเศษ
ลวดเชื่อมพิเศษ เป็นลวดเชื่อมที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับงานเชื่อมที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษ เช่น ความทนทานต่อความร้อนสูง การกัดกร่อน หรือการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีแรงกดดันและความเครียดทางกลสูง ลวดเชื่อมประเภทนี้มีส่วนผสมของวัสดุเฉพาะหรือเคลือบสารพิเศษเพื่อให้เหมาะกับการเชื่อมวัสดุหรือเงื่อนไขการทำงานที่หลากหลาย
ลักษณะสำคัญของลวดเชื่อมพิเศษ
ประเภทของลวดเชื่อมพิเศษ
• ลวดเชื่อมสำหรับงานอุณหภูมิสูง: เหมาะสำหรับงานเชื่อมในอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูง เช่น โรงงานเหล็ก โรงไฟฟ้า
• ลวดเชื่อมสำหรับสแตนเลส: ใช้สำหรับเชื่อมสแตนเลส ซึ่งเป็นโลหะที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง
• ลวดเชื่อมสำหรับอลูมิเนียม: เหมาะสำหรับงานเชื่อมอุตสาหกรรมอากาศยาน หรือชิ้นส่วนที่ต้องการน้ำหนักเบา
• ลวดเชื่อมสำหรับโลหะผสมพิเศษ: ออกแบบมาสำหรับเชื่อมวัสดุที่มีองค์ประกอบทางเคมีที่ซับซ้อน
เหตุผลที่ต้องเลือกใช้ลวดเชื่อมพิเศษ
• ความแข็งแรงและทนทาน: รอยเชื่อมที่ได้จากลวดเชื่อมพิเศษมีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก และทนต่อการสึกหรอ
• ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม: ทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี ความร้อน และสภาพอากาศที่รุนแรง
• อายุการใช้งานยาวนาน: รอยเชื่อมมีความแข็งแรงและทนทาน ทำให้ชิ้นงานมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
• ความปลอดภัย: รอยเชื่อมที่แข็งแรงและมั่นคงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
ดังนั้น ลวดเชื่อมพิเศษ เป็นลวดเชื่อมที่ตอบโจทย์งานเฉพาะทางที่ลวดเชื่อมทั่วไปไม่สามารถทำได้ ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและความสามารถในการปรับแต่ง ลวดเชื่อมพิเศษจึงเหมาะกับงานที่ต้องการคุณภาพและความทนทานสูงในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างและโครงสร้างที่ต้องใช้ลวดเชื่อมสำหรับเหล็กกล้าแรงดึงสูงในสะพาน อุโมงค์ หรืออาคารสูงอุตสาหกรรม
พลังงานที่ใช้ในโรงไฟฟ้า เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ โรงกลั่นน้ำมัน หรือโรงงานปิโตรเคมีอุตสาหกรรมทางทะเลที่ใช้เชื่อมวัสดุที่ต้องต้านทานการกัดกร่อนจากน้ำเค็ม รวมถึงงานซ่อมบำรุง เชื่อมชิ้นส่วนรถยนต์ที่ต้องเติมโลหะหรือเสริมความแข็งแรงให้กับเครื่องจักรที่สึกหรอ เป็นต้น
"ติดต่อสอบถามเพื่อขอใบเสนอราคา แบบหล่อเสาเข็ม"
----------------------------------------------------------------------
สนใจผลิตภัณฑ์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกช่องทาง
Tel: 02-710-9780-2 : 089-788-6205
Line Official: @Taitong
Website: www.taitong.co.th
YouTube: Taitong Machinery
Google Map: https://goo.gl/maps/9joDwoxxW1RuofiD8